บทความ

เจาะลึกการลด Carbon Footprint ด้วยระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic

“ใช้ท่อน้ำฝนน้อยกว่า…เพื่อโลกที่ดีกว่า”
เจาะลึกการลด Carbon Footprint ด้วยระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic

โลกของเรากำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง ที่ส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิที่สูงขึ้น ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงและถี่ขึ้นระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น สาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังวิกฤตการณ์นี้ก็คือ Carbon Footprint หรือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เราปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน  หนึ่งในนั้นคือ การก่อสร้าง และการใช้งานอาคาร ที่ใช้พลังงานและทรัพยากรจำนวนมหาศาล

และเพื่อรักษาโลกใบนี้ไว้ การลด Carbon Footprint” จึงเป็น “ความจำเป็นเร่งด่วน” ที่พวกเราทุกคนต้องตระหนักและลงมือทำ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Green Building” นวัตกรรมการก่อสร้างที่จะนำพาเราไปสู่สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

การเลือกใช้ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ที่มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำฝนสูงกว่าระบบกราวิตี้เดิมนั้น ช่วยลดขนาดท่อน้ำฝนให้เล็กลง และใช้ปริมาณท่อน้ำฝนน้อยลงจากเดิม ก็มีส่วนช่วยให้อาคารมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

Case Study

ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของ โครงการห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ที่เลือกใช้ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic เราได้ทำการเปรียบเทียบการใช้ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ว่าสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2 จากการใช้ท่อน้ำฝนลงได้กี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ท่อน้ำฝนของระบบระบายน้ำฝนกราวิตี้เดิม

Carbon Footprint

โดยใช้หลักการ Dematerialization  คือ ออกแบบทั้ง 2 ระบบ ให้สามารถระบายน้ำฝนได้เท่ากัน แล้วคำนวณปริมาณวัสดุที่ใช้ในการทำระบบระบายน้ำฝนแต่ละแบบ ในที่นี้จะคิดเฉพาะความยาวของท่อ เนื่องจากมีปริมาณมากที่สุด

ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พื้นที่หลังคา 22,234 ตร.ม. สถานที่ ถ.ราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ ค่าความเข้มฝน 250 mm/ hr

ปริมาณท่อรวมของระบบระบายน้ำฝน

✅ ระบบระบายน้ำฝนกราวิตี้ ใช้ท่อ PVC ความยาวท่อรวม 4,691 ม. คิดเป็นน้ำหนักท่อรวม 67,576 กก.

✅ ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic ใช้ท่อ HDPE ความยาวท่อรวม 2,300 ม. คิดเป็นน้ำหนักท่อรวม 8,958 กก.

รูปตารางเปรียบเทียบท่อของระบบระบายน้ำฝนกราวิตี้และJAS Siphonic
รูปเปรียบเทียบท่อของระบบระบายน้ำฝนกราวิตี้และJAS Siphonic

ความยาวท่อรวมทั้งหมดในโครงการ ระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic

ใช้ความยาวท่อน้อยกว่าระบบระบายน้ำฝนกราวิตี้ 51%

ปริมาณ ก๊าซ CO2 ที่ปลดปล่อยจากการผลิตท่อ

✅ ปริมาณก๊าซ CO2 ที่ปลดปล่อย จากการผลิตท่อ PVC 67,576 kg เท่ากับ 168,940.01 kgCO2

✅ ปริมาณก๊าซ CO2 ที่ปลดปล่อย จากการผลิตท่อ HDPE 8,958 kg เท่ากับ 17,917.24 kgCO2

รูปตารางเปรียบเทียบปริมาณ ก๊าซ CO2 ที่ปลดปล่อยจากการผลิตท่อ

ปริมาณ ก๊าซ CO2 ที่ปลดปล่อยจากการผลิตท่อของระบบระบายน้ำฝน JAS Siphonic

น้อยกว่า ระบบระบายน้ำฝนกราวิตี้ถึง 89.4%

กรณีศึกษาของห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่กล่าวมา เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การเลือกระบบระบายน้ำฝนที่มีประสิทธิภาพสูงการเลือกใช้วัสดุ และการลดปริมาณวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2 จากการผลิตท่อลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ การใส่ใจรายละเอียดในงานก่อสร้าง ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมได้จริง

JAS Siphonic ช่วยลดปริมาณการปล่อย Carbon Footprint

การสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เริ่มต้นได้จากการตัดสินใจเลือกสรรเทคโนโลยีและวัสดุที่ชาญฉลาดในทุกขั้นตอนของการพัฒนาอาคาร

………………………………….มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน……………………………………..

เราพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบระบบระบายน้ำฝน Siphonic โดยสามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่

Scroll to Top